ผลสำรวจใหม่ล่าสุดที่ครอบคลุมทั่วโลกนี้ยังได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคนทำงานทั่วโลกจำนวน 2 ใน 3 มักทำงานนอกสถานที่ในทุกสัปดาห์ และ มีจำนวนถึงร้อยละ 50 ที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยครั้งถึงครึ่งหนึ่งของสัปดาห์ บอกได้ว่าถึงเวลาแล้วที่องค์กรจะต้องกลับมาประเมินความคุ้มค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่
IWG บริษัทแม่ของผู้นำให้บริการพื้นที่สำนักงานระดับโลกอย่าง Regus (รีจัส) และ Spaces (สเปซเซส) คาดว่าวิวัฒนาการการทำงานนอกสถานที่ได้เกิดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในยุคโลกาภิวัฒน์ รวมถึงความคาดหวังของพนักงานที่มีต่อองค์กรของตน
IWG ได้เผยข้อมูลผลสำรวจจากนักธุรกิจจำนวนกว่า 18,000 คน ใน 96 บริษัท โดยพบว่าในทุกๆสัปดาห์จะมีพนักงานจำนวนกว่า 70% ที่ต้องทำงานจากนอกสถานที่อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 53) ทำงานจากนอกสถานที่เป็นน็นH็จำนวนครึ่งหนึ่งของสัปดาห์หรือมากกว่านั้น ในขณะที่คนจำนวน 1 ใน 10 (ร้อยละ 11) จะต้องทำงานจากที่อื่นนอกเหนือจากออฟฟิศหลักของตนมากถึง 5 ครั้งต่อสัปดาห์
นายมาร์ค ดิกซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ ผู้ก่อตั้ง IWG กล่าวว่า ผู้คนจากเมืองซีแอตเทิลถึงสิงคโปร์ หรือแม้แต่ลอนดอนจนถึงลาโกส ต่างไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในออฟฟิศอีกต่อไป
ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งที่เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคของการทำงานนอกสถานที่อย่างแท้จริง ซึ่งไม่เพียงแต่เหล่าพนักงานของบริษัทเอกชนเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงภาคธุรกิจด้วย นี่จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของพื้นที่การทำงานในระดับโลก โดยกลุ่มธุรกิจต่างเริ่มพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ที่ส่งผลถึงอสังหาริมทรัพย์ของธุรกิจ
ผลการสำรวจโดย IWG ยังพบว่าธุรกิจเลือกใช้วิธีการทำงานที่ยืดหยุ่นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการมอบสวัสดิการที่ดีเยี่ยมให้กับพนักงานเพื่อผลประโยชน์ดังนี้
- การเติบโตทางธุรกิจ (ร้อยละ 89 เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีอัตราเพียงร้อยละ 67)
- ความสามารถในการแข่งขัน (ร้อยละ 87 เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีอัตราเพียงร้อยละ 59)
- ประสิทธิภาพในการทำงาน (ร้อยละ 82 เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่มีอัตราเพียงร้อยละ 75)
- การดึงดูดและรักษาพนักงาน (ร้อยละ 80 เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีอัตราเพียงร้อยละ 64)
- เพิ่มผลกำไรสูงสุด (ร้อยละ 83)
คนทั่วโลกในยุคนี้ต่างเข้าใจว่าพื้นฐานของการทำงานจะประกอบไปด้วยสถานที่ทำงานที่มีหลักแหล่งแน่นอน และระยะเวลาการทำงานตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น. แต่กลุ่มธุรกิจต่างค่อยๆ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจและเหล่าพนักงาน
นอกจากนี้ผลสำรวจโดย IWG ยังชี้ให้เห็นว่า การทำงานที่ยืดหยุ่นไม่เพียงแต่ช่วยลดเวลาการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน รักษาพนักงาน สร้างความพึงพอใจในอาชีพ มีความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้น ทั้งยังส่งผลที่ดีต่อกลยุทธ์ด้านการเงินที่ให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าต่อธุรกิจ
สร้างสรรค์ความสุขที่มากขึ้น พร้อมด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของพนักงาน
การก้าวสู่พื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านความต้องการและความคาดหวังของกลุ่มพนักงาน โดยจำนวนกว่าร้อยละ 80 ของผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นสามารถช่วยรักษาพนักงานที่มีความสามารถได้ ในขณะที่ร้อยละ 64 มีแผนที่จะมอบการทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อดึงดูดพนักงาน ทั้งนี้มีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 58) ที่เห็นด้วยว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นนั้นช่วยปรับปรุงความพึงพอใจในอาชีพได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างแสดงให้เห็นว่าธุรกิจจำเป็นต้องมอบสิ่งแวดล้อมที่ดีและเหมาะสมต่อพนักงานในยุคปัจจุบันเพื่อรักษากลุ่มพนักงานที่ดีเยี่ยมไว้
ประโยชน์ที่ช่วยส่งผลต่อกลุ่มธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด : ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนกว่าร้อยละ 91 กล่าวว่า สถานที่การทำงานแบบยืดหยุ่นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้มากยิ่งขึ้นแม้ในขณะที่ต้องเดินทาง
เอียน ฮอลเลทท์ กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายแบรนด์และการร่วมทุนทั่วโลก กล่าวว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ดังนั้นความท้าทายของธุรกิจคือการปรับตัวให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยบริษัทจะต้องตระหนักถึงประโยชน์ของการทำงานที่มีความยืดหยุ่น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความพึงพอในในอาชีพ และผลการดําเนินงานทางธุรกิจ
ทุกคนต่างมีความต้องการในรูปแบบ “on-demand”
ผลการสำรวจได้แสดงให้เห็นว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นและการใช้พื้นที่การทำงานร่วมกัน ไม่จำกัดอยู่เพียงกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพอีกต่อไป แต่กลุ่มธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก อาทิ สายการบินเอทิฮัด ดีเซล จีเอสเค มาสเตอร์การ์ด ไมโครซอฟท์ ออราเคิล และ อูเบอร์ ต่างค่อยๆ ปรับตัวสู่พื้นที่การทำงานแบบยืดหยุ่น
นายมาร์ค กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและโลกดิจิทัล ได้นำไปสู่การใช้งานและการเติบโตของการบริการในรูปแบบ “on-demand” ซี่งบริษัทขนาดต่างๆ นั้นจำเป็นต้องเพิ่มการจ้างงานบุคคลภายนอกในส่วนงานที่ไม่ใช่งานหลัก
“การทำงานที่ยืดหยุ่น ได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มคนทำงานในรูปแบบ “on-demand” ซึ่งจะอยู่ในระดับงานของผู้นำระดับอาวุโสที่ดูแลงานต่างๆ ในบริษัท อาทิ การจัดการความเสี่ยง การพัฒนาธุรกิจ ทรัพยากรบุคคล การตลาดและกลยุทธ์”
“ในเร็วๆนี้ การทำงานที่ยืดหยุ่นจะกลายเป็นรูปแบบการทำงาน “ธรรมดาๆ” ซึ่งเราเชื่อว่าวันนั้นใกล้มาถึงแล้วอย่างแน่นอน”
นางโนเอล โค้ก ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย เกาหลี ไต้หวัน กล่าวว่า IWG ผู้นำที่ให้บริการพื้นที่สำนักงานระดับโลก เช่น Regus (รีจัส) และ Spaces (สเปซเซส) ในประเทศไทย ซึ่งมอบพื้นที่สำนักงานที่เป็นมืออาชีพและหลากหลาย พร้อมการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ บรรยากาศแห่งการทำงานร่วมกัน คอมมิวนิตี้และการบริการที่ยอดเยี่ยม โดยปัจจุบัน Regus มีทั้งหมด 19 แห่งทั่วประเทศและมีแผนที่เปิดใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ไอคอน พาร์ค และ โครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ และที่อาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค (ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไป ในขณะที่ Spaces เปิดตัวสาขาแรกอย่างประสบความสำเร็จ ณ ซัมเมอร์ฮิลล์ สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง และยังคงมีแผนเดินหน้าเปิดสาขาที่สองและสาม ณ อาคารจัสตุรัสจามจุรี และ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาทร
IWG เผยผลสำรวจเกี่ยวกับทัศนคติต่อการทำงานที่ยืดหยุ่น
จากกลุ่มตัวอย่างนักธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมจำนวนถึง 18,000 คน ทั่วทั้ง 96 ประเทศ