บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ผนึกภาคีเครือข่าย เสริมแกร่งวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยชุมชนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี เปิดอาคาร “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” เนรมิตให้เป็นโชว์รูมสินค้า ศูนย์กลางการจำหน่ายสินค้าชุมชน เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายควบคู่ไปกับการส่งเสริม การเรียนรู้แก่เยาวชนในพื้นที่และผู้ประกอบการในชุมชน รวมทั้งถ่ายทอดความรู้ด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน การหุ้มห่อสินค้าเพื่อการฝากส่ง และการส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนเรียนรู้การค้าขายผ่านทางออนไลน์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นประจำเกาะเกร็ด “ชาสมุนไพร” จากต้นรางแดง ภายใต้แบรนด์ “ชารากุล” พร้อมพัฒนาแพ็คเกตจิ้งรูปแบบใหม่ที่มีความสร้างสรรค์ และขยายช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มมากขึ้น ณ ที่ทำการไปรษณีย์ และเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com ทั้งนี้ การพัฒนาดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการ “ไปรษณีย์ไทย…เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการสร้างสรรค์ชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน
ดร.พรชัย ฐีระเวช รองประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ไปรษณีย์ไทย…เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ภายใต้การดำเนินงานไปรษณีย์เพิ่มสุข กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชารางแดง ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นั้น เกิดขึ้นจากความตั้งใจของไปรษณีย์ไทยที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการสร้างสรรค์ชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ผนวกกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ศักยภาพและความเชี่ยวชาญของเครือข่ายคนไปรษณีย์ และที่ทำการไปรษณีย์ ทำหน้าที่เชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐ ภาคีเครือข่ายต่างๆ และชุมชนในท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
ดร.พรชัย กล่าวต่อว่า ไปรษณีย์ไทย ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด (อบต.เกาะเกร็ด) คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และกรมวิชาการเกษตร พัฒนาชารางแดง สมุนไพรท้องถิ่นของเกาะเกร็ดที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และมีสรรพคุณทางยาจำนวนมาก ภายใต้แบรนด์ “ชารากุล” เพื่อส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มผู้ประกอบการภายในชุมชน และสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการพัฒนาแพ็คเกตจิ้ง (Packaging) รูปแบบใหม่ โดยอาจารย์และกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ที่มีความสร้างสรรค์และสะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชนอย่างแท้จริง ยกระดับคุณภาพสินค้าให้สามารถแข่งขันกับตลาดชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ความรู้ด้านการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ตลอดจนมีช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากชารางแดงเพิ่มมากขึ้น ณ ที่ทำการไปรษณีย์ และเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com รวมถึงจะนำสินค้าเข้าไปในระบบบริหาร ณ จุดขาย หรือ พีโอเอส (POS: Point of Sale) ของโครงการดิจิทัลชุมชนด้านอีคอมเมิร์ซด้วย โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกาะเกร็ดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15
นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการขายสินค้าชุมชน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเรียนรู้แก่เยาวชนในชุมชน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดแก่ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น โดยร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด ในการปรับปรุงอาคารเก่าในพื้นที่ ให้กลายเป็นโชว์รูมสินค้าชุมชนภายใต้ชื่อ “อาคารไปรษณีย์เพิ่มสุข” ศูนย์กลางการจำหน่ายสินค้าชุมชนบนเกาะเกร็ด ในลักษณะของการจัดแสดงสินค้าแบบโชว์รูม (Showroom) เพื่อนำเสนอสินค้าของดีของเด่นจากชุมชนสู่สายตานักท่องเที่ยว และเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย โดยในระยะแรกจะเป็นการจัดแสดงสินค้าในกลุ่มชารางแดง “แบรนด์ชารากุล” ผ้าบาติก เครื่องปั้นดินเผา และสินค้าชุมชนอื่นๆ ขณะเดียวกัน ยังใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้แก่เยาวชน และผู้ประกอบการในชุมชน เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน การหุ้มห่อสินค้าเพื่อการฝากส่ง และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
นายปรีชา เอกนาวากิจ ผู้ประกอบการ ตัวแทนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนชารางแดง แบรนด์ชารากุล เกาะเกร็ด กล่าวว่า จากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ เป็นเวลาประมาณ 1 ปี ทำให้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ชารากุลถูกปรับโฉมแพ็คเกจจิ้ง (Packaging) และได้รับมาตรฐานรับรอง GAP ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดจำหน่ายชารางแดงของทั้งชุมชนได้ ขณะเดียวกันภายหลังจากการปรับปรุงพื้นที่เดิมภายในชุมชน ให้เป็น “อาคารไปรษณีย์เพิ่มสุข” หน้าร้านสำหรับแนะนำสินค้าดี-ของเด่นประจำท้องถิ่น จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนกลายเป็นที่รู้จัก และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เข้ามาปั่นจักรยานเที่ยวชมบรรยากาศชุมชนเกาะเกร็ด พร้อมอุดหนุนผลิตภัณฑ์แบรนด์ ชารากุล เป็นของฝากพรีเมี่ยมที่คงเอกลักษณ์ท้องถิ่นติดมือไปฝากญาติผู้ใหญ่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th