นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” กล่าวว่า “แนวโน้มการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตในรูปแบบของ QR Code มีการเติบโตต่อเนื่อง ตามกระแสของสังคมไร้เงินสดที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผู้ใช้งาน ซึ่งการจะเป็นแบบนี้ได้ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ร้านค้าต่าง ๆ มีระบบชำระเงินที่มีมาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งเคทีซีเองเป็นหนึ่งในผู้ที่ให้บริการทั้งบัตรเครดิตสำหรับผู้บริโภค และให้บริการระบบชำระเงินรูปแบบต่างๆ สำหรับร้านค้าสมาชิกในคราวเดียวกัน โดยในปี 2559 ได้เริ่มให้บริการรับชำระด้วยอาลีเพย์ ผู้ให้บริการจ่ายเงินออนไลน์ยอดนิยมของประเทศจีน ภายใต้บริษัท Ant Group เพื่อรองรับชาวจีนที่อาศัยในไทยและกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในไทย โดยเมื่อสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมาเคทีซีมียอดรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยอาลีเพย์ประมาณ 15,600 ล้านบาท”
“สำหรับความร่วมมือระหว่างเคทีซีกับธ.ก.ส. ครั้งนี้ เคทีซีจะใช้เทคโนโลยี QR Code Payment ในการเปิดช่องทางรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านพร้อมเพย์ (PromptPay) และ eWallet ของอาลีเพย์ (Alipay) ผนวกเข้ากับแอปพลิเคชัน “ร้านน้องหอมจัง” ของ ธ.ก.ส. เพื่อช่วยส่งเสริมการประกอบกิจการฐานราก และขับเคลื่อนชุมชนให้เข้มแข็ง อีกทั้งช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนในการติดตั้งอุปกรณ์รับชำระให้กับร้านค้าต่าง ๆ ของธ.ก.ส. เกือบ 2 แสนร้านค้า ทั่วประเทศ ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นคนไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการ โดยร้านค้าสมาชิก “น้องหอมจัง” ของธ.ก.ส. ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับความมั่นใจจากระบบรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมรับชำระตามมาตรฐานของวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด นอกจากนี้ เคทีซียังพร้อมให้บริการเชื่อมต่อระบบชำระเงินออนไลน์ “เพย์เมนท์ เกทเวย์” (Payment Gateway) สำหรับการรับชำระบนเว็บไซต์ของร้านค้าในโครงการ รวมทั้งเปิดช่องทางการจำหน่ายสินค้าบนเว็บไซต์สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ “KTC UShop” เพื่อร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน New Gen Hug บ้านเกิด อาทิ ร้าน Coco Valley Resort จังหวัดน่าน ร้านตานี (TANEE) ของชุมชนช่างสกุลบายศรี จังหวัดราชบุรี และร้าน The FIGnature จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ภายใต้เครือข่ายร้านค้าน้องหอมจังของธ.ก.ส. อีกด้วย”