ทั้งนี้ ใน ปี 2563 ETDA ได้ส่งมอบงานสำคัญผ่าน 5 โครงการ ได้แก่
1. โครงการ Digital Governance เพื่อให้ทุกภาคส่วนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมั่นใจ มีกลไกกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ ผ่านกฎหมายและมาตรฐานสำคัญๆ เช่น ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ. Digital ID) รองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ส่งเสริมธุรกิจเกี่ยวกับดิจิทัลไอดี เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่เชื่อถือได้ สะดวก รวดเร็ว และ ร่าง พ.ร.ฎ. ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจการให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (CA) รวมทั้งการออกข้อเสนอแนะฯมาตรฐาน แนวทางการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย ลดความเสี่ยง รวมถึงผลักดันเรื่องระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Meeting ทั้งการออกกฎหมายและมาตรฐาน ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยปลดล็อกกฎหมายที่มีอยู่เดิม และช่วยรับรองผู้ให้บริการระบบประชุม เพื่อให้ผู้ใช้เกิดความเชื่อมั่นในระบบที่ใช้งานด้วย พร้อมเปิด Digital Service Sandbox เพื่อทดสอบการใช้นวัตกรรมหรือบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ให้สอดคล้องข้อกฎหมาย หรือมาตรฐานต่าง ๆ ก่อนการใช้งานจริง
2. โครงการ Speed-up e-Licensing เร่งเครื่องระบบดิจิทัลในบริการภาครัฐ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและให้ภาคธุรกิจและประชาชนได้รับบริการที่รวดเร็ว โดยการพัฒนาบริการของรัฐให้เป็นบริการดิจิทัล ผ่านโครงสร้างข้อมูล (Schema) การออกใบอนุญาตหรือเอกสารหลักฐานของภาครัฐให้เป็นระบบดิจิทัล พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับบริการดิจิทัลของเอกชน ด้วยการตรวจประเมินรับรองระบบสารสนเทศและการใช้บริการ e-Timestamping ประทับรับรองเวลาของ e-Document
3. โครงการ Digital Transformation ให้ภาครัฐมีระบบดิจิทัลที่มั่นคงปลอดภัย ห่างไกลภัยไซเบอร์ ด้วยโครงการ Government Threat Monitoring System (GTM) เฝ้าระวังภัยไซเบอร์ให้กับหน่วยงานรัฐ พร้อมเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์ม Threat Watch ยกระดับการเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. โครงการ Thailand e-Commerce Sustainability ลดเหลื่อมล้ำ เพิ่มรายได้ ด้วยอีคอมเมิร์ซ อย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายลงพื้นที่พัฒนาศักยภาพอีคอมเมิร์ซชุมชนทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรด้านอีคอมเมิร์ซ ปูทางความพร้อมให้กับนักเรียน (ทสรช.) นักศึกษา (มศว, เอแบค ฯลฯ) เพื่อป้อนตลาดแรงงานยุคดิจิทัล เปิดหลักสูตรออนไลน์เพื่อให้คนไทยเรียนรู้ได้ผ่านแพลตฟอร์มของ ETDA และสำนักงาน ก.พ. พร้อมผลักดันแผนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อกำหนดทิศทางพัฒนาให้ทุกภาคส่วน ตลอดจนเดินหน้าสำรวจการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย มูลค่าอีคอมเมิร์ซประเทศไทย และสถิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับไปวางแผนการตลาด และสร้างโอกาสในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ได้
5. โครงการ Stop e-Commerce Fraud ทั้ง คุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์เชิงรุก ผ่านการนำเครื่องมือ Social Listening วิเคราะห์ข้อมูลในโลกออนไลน์เพื่อนำมาแจ้งเตือนภัยก่อนเกิดเหตุหรือลุกลาม และการจัดอบรมและเสริมสร้างความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่สนใจ เพื่อให้ประเทศไทยมีกำลังคนด้านไซเบอร์เพิ่มขึ้น