ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) แถลงวันนี้ถึงแผนการขยายธุรกิจในประเทศไทย หลังจากเปิดตัวซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (Subaru Forester) คันแรกที่ผลิตในประเทศไทย มร. เกลน ตัน รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว ณ งาน Motor Expo ครั้งที่ 35 ว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับประเทศไทยในการผลิตรถยนต์ซูบารุเพื่อให้มีคุณสมบัติทางเทคนิคและความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก เราจึงได้ตัดสินใจลงทุนเพื่อสร้างงานให้กับบุคลากรของเราที่นี่ และเพื่อผลิตรถยนต์สำหรับป้อนตลาดในเอเชีย เรามั่นใจว่ารถยนต์เหล่านี้จะตอบโจทย์และมอบประสิทธิภาพที่เกินความคาดหมายให้แก่ผู้ใช้รถและสมาชิกในครอบครัวที่มีความรู้ความเข้าใจในการเลือกใช้รถมากขึ้นทุกวัน”
รถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ถูกนำมาจัดแสดง ณ งาน Motor Expo เหล่านี้ ผลิตโดยโรงงานแห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ที่มีการจ้างงานกว่า 300 คน เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ซูบารุที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรถยนต์แบบ CKD คันแรกที่ผลิตในโรงงานที่ประเทศไทยจะออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562
ลูกค้าสามารถจองรถยนต์ได้ในงาน Motor Expo โดยผู้ที่จอง 99 ท่านแรก จะได้รับโอกาสในการเยี่ยมชมโรงงานผลิตหลังจากที่รถยนต์ที่สั่งจองไว้นั้นผลิตเสร็จแล้ว นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการอีก 15 แห่งในประเทศไทย ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2562 เนื่องจากความต้องการในรถยนต์ซูบารุได้เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รุ่นประกอบในประเทศไทยนี้จะถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อตอบสนองความในแบรนด์ซูบารุในเอเชียที่เพิ่มขึ้นด้วย
ด้วยมาตรฐานการผลิตเดียวกับญี่ปุ่น รถยนต์ซูบารุที่ผลิตในประเทศไทยยังคงไว้ซึ่ง 4 เทคโนโลยีหลักที่ครองใจแฟนค่ายดาวลูกไก่ทั่วโลกด้วย ประกอบด้วย ซูบารุ โกลบอล แพลทฟอร์ม (Subaru Global Platform), ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive), เครื่องยนต์แบบ Boxer และสุดยอดเทคโนโลยี EyeSight ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New Forester 2019) มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพที่เหนือชั้นทั้งภายในและภายนอก เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสูงสุด โดยครั้งนี้มีให้เลือก 3 รุ่น ประกอบด้วย ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-S EyeSight, ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-S และ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-L
ความสามารถในการขับขี่และเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยม
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ส่งพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่แบบตลอดเวลา ช่วยให้รถเกาะถนน และช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยสูงสุด
- ขุมพลังจากเครื่องยนต์ Boxer แบบไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 0 ลิตร ช่วยเพิ่มแรงม้าและประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง
- ระบบเกียร์ CVT 7 สปีด ช่วยให้เร่งความเร็วรถได้ดียิ่งขึ้น
- ซูบารุ โกลบอล แพลทฟอร์ม (Subaru Global Platform) โครงสร้างรถที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้น ลดแรงสั่นสะเทือน การแกว่งของตัวรถ และเสียงรบกวน
- ฟังก์ชั่น X-MODE ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย โดยใช้ระบบควบคุมเครื่องยนต์แบบบูรณาการ ทั้งการขับเคลื่อน All – Wheel Drive ระบบเบรก และระบบอื่นๆ
- ระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้อย่างมั่นใจเมื่อเข้าโค้ง
คุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่น่าประทับใจ
- ระบบช่วยในการขับขี่ EyeSight ประกอบไปด้วย ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลนและเมื่อรถส่าย คุณลักษณะนี้มีอยู่ในรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รุ่น 0 i-S EyeSight
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold)
- ระบบตรวจจับยานพานะด้านหลัง (SVRD) ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของรถ เพื่อตรวจจับวัตถุและยานพาหนะที่อยู่ด้านหลัง เพื่อการถอยรถและจอดรถอย่างไร้กังวล
- การปรับรูปทรงของเสารถเพื่อลดจุดบอด ทำให้การมองเห็นครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ความคล่องตัวและห้องโดยสารที่สะดวกสบาย
- ระยะระหว่างพื้นกับตัวรถมากกว่า 220 มม.
- ราวหลังคาที่ยกสูงขึ้นและจุดสำหรับผูกเชือก ทำให้พร้อมสำหรับการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น
- การออกแบบภายในใหม่เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น
- ช่องใส่ของหลังเบาะรถแบบหลายช่อง
- พอร์ตชาร์จ USB
- ช่องลมสำหรับเครื่องปรับอากาศที่คอนโซลกลาง
- พื้นที่วางขาที่กว้างขึ้นในห้องโดยสารด้านหลัง พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่ใหญ่ขึ้น ช่องเปิดท้ายรถที่กว้างขึ้น
- ประตูพาวเวอร์ด้านหลัง ช่วยให้สามารถเปิด-ปิด และล็อคประตูทุกด้านของรถได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว
ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New Forester 2019) คือการสร้างสรรค์ที่มาพร้อมความยั่งยืน ตัวรถสร้างจากเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง มอบความทนทานและความแข็งแกร่งตามแบบฉบับของรถ SUV โครงสร้างตัวถังที่ยกขึ้น วัสดุหุ้มรถใหม่ และชุดกันชนที่นูนออกมามากขึ้น กระจังรอบไฟหน้า และไฟท้ายที่ตกแต่งใหม่ด้วยรายละเอียดที่ดูสวยงามกลมกลืน แต่แฝงไว้ด้วยความแข็งแรงและความหรูหรา ล้วนเป็นการออกแบบใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของรถรุ่นก่อนหน้า
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-725-1888 หรือชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.subaru.asia/th