บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เผยความคืบหน้าโครงการดิจิทัลชุมชนด้านอีคอมเมิร์ซ การติดตั้งอุปกรณ์ระบบบริหาร ณ จุดขาย หรือ พีโอเอส เรียบร้อยแล้วจำนวนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเตรียมเปิดตัวเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com อี-มาร์เก็ตเพลสโฉมใหม่ ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์สินค้าชุมชนที่ใหญ่และครอบคลุมที่สุดของประเทศไทย โดยรวบรวมสินค้าชุมชน ของดีประจำท้องถิ่น และอาหารที่มีชื่อเสียงจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ได้ตั้งเป้าที่จะเดินหน้าติดตั้งระบบ “พีโอเอส” ซึ่งสามารถจัดการบริหารค้าปลีกผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ ระบบการชำระเงิน (อี-เพย์เม้นท์) และระบบการขนส่งสินค้า (อี-โลจิสติกส์) ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 5,000 แห่ง ภายในปี 2561
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จากนโยบายของทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการต่อยอดโครงการเน็ตประชารัฐ ด้วยการสนับสนุนให้สินค้าชุมชนมีระบบอีคอมเมิร์ซเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายภายใต้โครงการดิจิทัลชุมชนด้านอีคอมเมิร์ซนั้น ไปรษณีย์ไทย ได้รับหมายให้เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาแอปพลิเคชั่นและติดตั้งระบบบริหาร ณ จุดขาย หรือ พีโอเอส (POS: Point of Sale) ให้กับร้านค้าชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยปัจจุบันดำเนินการเสร็จกว่าจำนวน 200 จุดทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบบดังกล่าวเป็นการยกระดับมาตรฐานของระบบการจัดการหน้าร้าน รายการสินค้า และการจัดการสินค้าคงคลัง เพื่อให้พร้อมสำหรับการขายของออนไลน์ในระบบอีคอมเมิร์ซต่อไป
ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในโครงการ
นางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ปณท ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ ไปฝึกอบรมการใช้งานอุปกรณ์และระบบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีระบบบริหารจัดการสินค้าที่มีมาตรฐาน และทำการคัดเลือกสินค้าที่พร้อมต่อการขายสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท (www.thailandpostmart.com) ซึ่งจะเป็นอี-มาร์เก็ตเพลส ร้านค้าออนไลน์สินค้าชุมชนขนาดใหญ่และครอบคลุมที่สุดของประเทศไทยที่รวบรวมสินค้าชุมชน ของดีประจำจังหวัด และอาหารที่มีชื่อเสียงจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีสินค้าไม่ต่ำกว่าหลายหมื่นรายการ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะพร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนพฤษภาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ได้ตั้งเป้าที่จะเดินหน้าติดตั้งระบบ “พีโอเอส” ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 5,000 แห่ง ซึ่งการส่งเสริมมาตรฐาน และระบบจัดการที่เหมาะสม จะทำให้ชุมชนสามารถมีรายได้ที่มากขึ้น และพึ่งพาตนเองได้ ผนวกกับการเข้าถึงทุกชุมชนทั่วประเทศไทย เป็นหนึ่งจุดแข็งสำคัญของไปรษณีย์ไทย ที่สามารถนำมาเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม เศรษฐกิจ และประเทศชาติผ่านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองอย่างยั่งยืน ซึ่งตรงกับสโลแกนของไปรษณีย์ไทย คือ “ไปรษณีย์ไทย…เครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทย” นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th