บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) พลิกโฉมบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ สู้ศึกตลาดบริการขนส่งพัสดุภัณฑ์รองรับอีคอมเมิร์ซข้ามแดนโตแบบก้าวกระโดด เล็งยอดรวมปีนี้พุ่งจากปีกลายอีก 13% เป็น 4,000 ล้านบาท เปิดโผบริการใหม่โฟกัสธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยส่งสินค้าถึงมือลูกค้าในต่างแดนทั้งแบบเหนือชั้นและแบบประหยัด
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยถึงแนวโน้มบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศว่า นับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2561 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 13 จากเดิมกว่า 3,500 ล้านบาทเป็น 4,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากบริการ ไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศหรือ EMS World และบริการส่งพัสดุระหว่างประเทศ ตามด้วยไปรษณีย์ธรรมดาและลงทะเบียนระหว่างประเทศ และรายได้ค่าตอบแทนการนำจ่ายจากประเทศต้นทาง ตามลำดับ
“ไปรษณีย์ไทย ยังคงครองส่วนแบ่งในระดับแถวหน้า เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการตลาดขนส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศของไทยที่คาดว่าจะสูงถึงหมื่นล้านบาทในปีนี้ ทั้งนี้แรงส่งสำคัญยังมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งในประเทศและทั่วโลกที่ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซข้ามแดนมีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่เคยมีผลสำรวจระดับโลกคาดการณ์ไว้ว่า มูลค่าอีคอมเมิร์ซข้ามแดนจะเพิ่มสูงถึง 9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 30 ล้านล้านบาท ในปี 2563 หรือเติบโตเป็นสามเท่าของมูลค่าทั่วทั้งโลกในปี 2558 นั่นเอง”
และเพื่อรองรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไทยในการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าต่างประเทศมากขึ้น ไปรษณีย์ไทย จึงได้ปรับปรุงและพัฒนาบริการเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ค้าออนไลน์ในไทย ไม่ว่าจะเป็นบริการ EMS World One Price คิดราคาแบบเหมาจ่ายตามขนาดกล่อง/ซอง และโซนประเทศหลายทาง ครอบคลุม 39 ปลายทางทั่วโลก บริการส่งพัสดุย่อย Small Packet ในราคาประหยัดเริ่มต้นที่ 12 บาท เหมาะสำหรับการส่งของชิ้นเล็กน้ำหนักไม่เกิน 2 กก. ไปยัง 200 ประเทศปลายทางทั่วโลก ไปจนถึงบริการ e-Packet ที่ตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ตลอดเส้นทางในราคาประหยัด เริ่มให้บริการเมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาไปยัง 13 ประเทศปลายทางสำคัญ และจะเชื่อมต่อเข้ากับระบบของเว็บไซต์ eBay เร็ว ๆ นี้เพื่อรองรับผู้ค้าบน eBay กว่า 10,000 รายทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมี Courier Post อีกหนึ่งบริการระดับพรีเมี่ยมที่พัฒนาขึ้นภายใต้สโลแกน “เหนือชั้นทุกการส่ง ตรงสู่ทุกมุมโลก” เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อต้นเดือน พ.ค.นี้ โดยร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญคือ ดีเอชแอล เอ็กซเพรส หนึ่งในผู้นำบริการส่งด่วนมาตรฐานโลก โดยให้บริการส่งด่วนทั่วโลกภายใน 2-3 วันแก่ผู้ค้าออนไลน์ พร้อมดำเนินการด้านพิธีการศุลกากร ณ ประเทศปลายทางแบบเบ็ดเสร็จ ตลอดจนการรับประกันกรณีสิ่งของสูญหายและเสียหาย
นางสมร กล่าวด้วยว่า ไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพบริการเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างครบวงจร และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในตลาดไทยและเวทีโลก เช่น การขยายจุดให้บริการเพิ่มขึ้น บริการรับสิ่งของฝากส่งถึงที่ (Free Pickup Service) จุดบริการ Drop-Off และบริการรับชำระเงินด้วย eWallet ณ ที่ทำการไปรษณีย์หรือ ณ ที่อยู่ผู้ฝากส่ง ตลอดจนแผนพัฒนาศูนย์กระจายสินค้ารองรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคะตะวันออก หรือ EEC ตามนโยบายของรัฐบาล