องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ลุยโครงการ “เลี้ยงหมูด้วยใจ Raise Pigs Right” มุ่งยุติความทรมานที่เกิดขึ้นกับแม่หมูในประเทศไทยและทั่วโลก เผยแม่หมูนับล้านตัวถูกบังคับให้อยู่ในคอกคับแคบที่มีพื้นที่เท่าตู้เย็นขนาดกลางตลอดชีวิต ก่อให้เกิดความเครียด เจ็บป่วยง่ายและต้องใช้ยาปฏิชีวนะจำนวนมากซึ่งส่งผลต่อเนื้อหมูที่เราบริโภค เลือกวันดี 4 ตุลาคม วันสัตว์โลก (World Animal Day) จับมือทูตองค์กรฯ “โตโน่” พระเอกหนุ่มหัวใจรักสัตว์ จัดกิจกรรมล่าลายเซ็นสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนลงชื่อเรียกร้องให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศเลือกจำหน่ายเนื้อหมูที่มาจากฟาร์มที่ไม่เลี้ยงแม่หมูแบบยืนซองเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับแม่หมูทุกๆ ตัว

จากความเชื่อมั่นขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกว่าสัตว์ทุกตัวบนโลกควรได้รับการดูแลอย่างมีสวัสดิภาพที่ดี ไม่เว้นแม้แต่สัตว์เลี้ยงในฟาร์มเพื่อการบริโภคอย่างหมู ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ที่ได้รับความนิยมในการบริโภคเป็นจำนวนมาก แต่หมูในฟาร์มเติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูอย่างทารุณ หลายคนคงไม่ทราบว่าคอกแม่หมูที่คับแคบไม่กว้างไปกว่าตู้เย็นขนาดกลางนั้น ทำให้แม่หมูไม่สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ทั้งๆ ที่หมูเป็นสัตว์สังคม ต้องการการเข้ากลุ่ม แต่การอยู่ในกรงเพียงลำพังตัวเดียวก็เหมือนกับการขังเดี่ยวที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจหมูตลอดชีวิต

เมื่อคอกขังแม่หมูมีขนาดเล็กและแคบเท่ากับตู้เย็นขนาดกลาง

“โตโน่” จึงอาสาเข้าไปอยู่เพื่อสัมผัสถึงความอึดอัดให้เห็นกันจะๆ

นางสาวโรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงกิจกรรม “เลี้ยงหมูด้วยใจ” ว่ามีวัตถุประสงค์ที่จะเรียกร้องให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ เลือกสรรเนื้อหมูจากฟาร์มที่ไม่เลี้ยงแม่หมูแบบยืนซองมาจัดจำหน่ายให้ผู้บริโภค เพื่อช่วยชีวิตแม่หมูนับล้านตัวในประเทศไทยจากการเลี้ยงแบบทารุณและไม่ได้รับสวัสดิภาพที่เหมาะสม ตลอดจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานเนื้อหมูที่สะอาด ได้คุณภาพและปราศจากสารเคมีตกค้างในปริมาณมากอีกด้วย โดยกิจกรรมดังกล่าวนี้ เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการพร้อมกันทั่วโลก ทั้งนี้เพราะมีฟาร์มเลี้ยงหมูจำนวนมากและส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของหมู โดยเฉพาะแม่หมูที่ถูกจับขังอยู่ในคอกหรือซองแคบๆ ขนาดพอดีตัว ทำให้แม่หมูเกิดความเครียด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แม่หมูอ่อนแอลง เจ็บป่วยง่ายขึ้น ต้องใช้ยาปฏิชีวนะมากขึ้นเรื่อยๆ อาจส่งผลให้ยาตกค้างมาถึงเนื้อหมูที่เราบริโภคในที่สุด

“เราหวังว่าการเปิดเผยให้เห็นเบื้องหลังที่มาของเนื้อหมูที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวัน จะทำให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการมอบชีวิตที่ดีขึ้นให้กับแม่หมู เราต้องการการสนับสนุนจากคนไทยทุกคนค่ะ” ผู้อำนวยการองค์กรฯ กล่าว

ส่วนพระเอกหนุ่มทูตองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก “โตโน่” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ลงทุนยัดตัวเองเข้าไปอยู่ในตู้เย็นขนาดเท่ากับคอกขังแม่หมูก่อนจะเดินออกมาจากตู้เย็นนั้นมาพูดคุยบนเวทีและเรียกร้องให้ทุกคนร่วมสนับสนุนโครงการนี้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของแม่หมูและตัวเรา

โตโน่เผยความรู้สึกว่าแค่เข้าไปอยู่ในตู้เย็นที่จำลองขนาดของคอกหมูเพียงไม่กี่นาทีก็สัมผัสได้ถึงความอึดอัดแล้ว “ผมคิดว่าแม่หมูควรจะมีความสุขในการใช้ชีวิตในฟาร์มเลี้ยงอย่างเต็มที่ ฟาร์มควรจัดการเรื่องสวัสดิภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานและสอดคล้องกับธรรมชาติของชีวิตความเป็นอยู่ของแม่หมู เราอาจไม่เคยตระหนักมาก่อนว่าหมูเองก็เป็นสัตว์สังคม ต้องการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนหมูด้วยกัน ความสะอาดต้องมี ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเครียดให้กับแม่หมู ทำให้แม่หมูแข็งแรง ซึ่งจะส่งผลให้ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะกับแม่หมูมากเกินไป ซึ่งอาจจะตกค้างมายังลูกหมูและส่งต่อมายังเนื้อหมูที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าแม่พันธุ์หมูที่มีสุขภาพดี ไม่เครียดและมีความสุขที่จะได้อยู่กับลูกได้ให้นมลูกตามธรรมชาติย่อมเป็นต้นทางคุณภาพที่จะผลิตลูกหมูสุขภาพดีต่อไป” นี่คือส่วนหนึ่งบนเวทีเสวนาเล็กๆ ที่องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกจัดขึ้นเพื่อเรียกร้องชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับหมูแม่พันธุ์ในฟาร์ม

นอกจากจะพูดคุยบนเวทีแล้ว โตโน่ยังออกเดินพร้อมกับขบวนขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกไปตามถนนสีลมเพื่อขอรายชื่อสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน โตโน่เน้นย้ำว่าเราทุกคนสามารถช่วยกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้กับแม่หมูนับล้านตัวในประเทศไทย เพียงแค่ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตยกเลิกจำหน่ายเนื้อหมูที่มาจากวิธีการเลี้ยงแม่หมูแบบยืนซอง

“หนึ่งเสียงของทุกคนมีค่า หากเราร่วมใจกัน เสียงของเราก็จะมีพลังและนำไปสู่การยุติความทุกข์ทรมานของแม่หมูในฟาร์มเลี้ยงได้” โตโน่กล่าวอย่างหนักแน่น

โครงการ “เลี้ยงหมูด้วยใจ” (Raise Pigs Right) โดยองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตยกเลิกการจำหน่ายเนื้อหมูที่มาจากวิธีการเลี้ยงแม่หมูแบบยืนซอง เพื่อช่วยชีวิตแม่หมูนับล้านตัวในประเทศไทยจากการเลี้ยงแบบทารุณและไม่ได้รับสวัสดิภาพที่เหมาะสม ตลอดจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานเนื้อหมูที่สะอาด ได้คุณภาพและปราศจากสารเคมีตกค้าง ทั้งนี้ จากความพยายามขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ส่งผลให้บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของไทยร่วมให้คำมั่นว่าจะยกเลิกการเลี้ยงแม่หมูแบบยืนซองขณะตั้งท้องเป็นรายแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 โดยจะเปลี่ยนมาเป็นระบบการเลี้ยงแบบรวมกลุ่มให้ครบทุกฟาร์มในเครือฯ ภายใน พ.ศ. 2570 เช่นเดียวกับซีพีเอฟที่มีแผนจะยุติการเลี้ยงหมูแม่พันธุ์ที่ตั้งครรภ์แบบยืนซองหันมาเลี้ยงแบบรวมกลุ่มให้แล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2568

นอกจากนี้ ทุกคนยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เลี้ยงหมูด้วยใจ” ได้โดยร่วมลงชื่อกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกที่ www.worldanimalprotection.or.th