จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้มีการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับคุณแม่ยุคใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าสินค้าหรือบริการบางประเภทก็มีราคาที่สูงลิ่ว ทำให้คุณแม่หลายๆ ท่านไม่สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการเหล่านั้นได้ คงจะดีไม่น้อยถ้าหากชั่วโมงนี้มีนวัตกรรมดีๆ ที่ไม่ต้องจ่าย หรือจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวแล้วได้ความคุ้มค่าที่ทำให้คุณแม่มีความสุข คุณลูกก็แสนจะแฮปปี้

วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ 3 ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เข้าไปร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม ขอบอกเลยว่าตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าบรรดาคุณแม่ยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีเพราะนอกจากจะสบายกระเป๋าแล้ว ยังสร้างความสบายกาย – สบายใจให้กับคุณแม่ได้อย่างหายห่วงอีกด้วย

“มะลิ (MALI) แอปพลิเคชั่นมือถือสำหรับสตรีตั้งครรภ์” การันตีคำแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวช สูตินรีเวช

จากข้อมูลการสำรวจประชากรพบว่า สถิติสตรีตั้งครรภ์ภายในประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 780,000 คนต่อปี แต่การเข้าถึงข้อมูลการดูแลครรภ์ตลอดจนการดูแลบุตรหลังคลอดนั้น ส่วนใหญ่ยังมาจากแหล่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจำพวกเว็บไซต์ เฟซบุ๊ค หรือแม้แต่การสอบถามจากผู้ที่เคยมีบุตรมาแล้ว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจขาดความน่าเชื่อถือและสร้างความสับสนได้ ส่วนข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและครบถ้วนนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาต่างประเทศ ซึ่งคนที่ขาดทักษะด้านภาษาก็ไม่อาจที่จะเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้

โครงการ มะลิ แอปพลิเคชั่นมือถือสำหรับสตรีตั้งครรภ์จึงเกิดขึ้นมาเพื่อที่จะให้ความรู้และข้อมูลให้กับสตรีตั้งครรภ์ในระยะต่างๆ โดยที่ข้อมูลจะถูกจัดแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ ภายในแอปพลิเคชั่นจะประกอบไปด้วยข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านโภชนาการ ด้านการออกกำลังกาย อาการที่อาจจะเกิดขึ้นกับสตรีตั้งครรภ์ในระยะต่างๆ ข้อแนะนำ และข้อบ่งชี้การใช้ยาในสภาวะตั้งครรภ์ ตลอดจนข้อมูลเรื่องของนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สตรีตั้งครรรภ์ได้เข้าถึงสิทธิประโยชน์จากนโยบายได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์จะได้รับการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งทางด้านสูตินรีเวช และกุมารเวช จึงทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลดังกล่าวมีแหล่งข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ

แอปพลิเคชันดังกล่าวจะมี 2 ส่วน คือ แบบ Free Version คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งในส่วนนี้จะมีรายได้มาจากการโฆษณา แต่สำหรับคุณแม่ที่มีกำลังทรัพย์จะเลือกเป็นแบบ Premium Version ก็ได้ ซึ่งในส่วนนี้จะเพิ่มเติมบริการให้คำปรึกษาและบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งปัจจุบันนี้ “โครงการมะลิ แอปพลิเคชั่น” อยู่ในขั้นตอนการทดสอบการใช้งานแอปพลิเคชั่น ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และสามารถใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบในวันแม่ปีนี้

“พลีพลีม” ปลีกล้วยและขิงอัดเม็ด เพื่อช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่

ปัจจุบันกระแสการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เริ่มมีเพิ่มมากขึ้น แต่ยังมีคุณแม่มือใหม่จำนวนไม่น้อยที่ประสบกับปัญหาน้ำนมน้อยไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะเกิดจากหลายปัจจัย เช่น สุขภาพ โภชนาการ รวมถึงการให้นมในท่าที่ไม่ถูกต้องทำให้ลูกไม่สามารถกระตุ้นดูดได้อย่างเต็มที่ โดยส่วนใหญ่มักจะแก้ปัญหาด้วยการใช้ยากระตุ้นน้ำนมที่ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคติน แต่สารกระตุ้นดังกล่าวอาจมีผลข้างเคียงในระยะยาว รวมถึงการใช้พืชสมุนไพรที่มีฤทธิในการกระตุ้นน้ำนม แต่อาจจะมีกรรมวิธีในการปรุงที่ยุ่งยาก ไม่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคุณแม่ยุคใหม่

บริษัท พลีพรีม จำกัด จึงเห็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระตุ้นน้ำนมจากปลีกล้วยและขิงในรูปแบบที่สามารถบริโภคได้สะดวก จึงได้ร่วมกับคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำวิจัยเพื่อยืนยันผลในการกระตุ้นน้ำนมในมารดาหลังคลอดที่ได้รับผลิตภัณฑ์ปลีกล้วยผสมขิงชนิดผงชงซึ่งพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถกระตุ้นการหลั่งน้ำนมในมารดาให้นมบุตรได้จริงและยังไม่มีผลกระทบต่อแม่และเด็ก และมีการต่อยอดร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคนิคทาง spray dry และ micro-encapsulation เพื่อเพิ่มอายุการเก็บรักษาและควบคุมการออกฤทธิ์ของสารสำคัญไว้ นอกจากนี้ ยังทำการพัฒนาให้เป็นแบบเม็ดขนมทานง่าย รสชาติอร่อย เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

OCARE บริการตรวจสุขภาพที่พร้อมส่งตรงถึงบ้านและที่ทำงาน

ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ คุณแม่หลังคลอด หรือคุณแม่ที่ลูกโตแล้วก็ต้องใส่ใจสุขภาพอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้มีบริการที่ชื่อว่า OCARE การตรวจสุขภาพที่พร้อมส่งตรงถึงบ้านและที่ทำงาน ทำให้ไม่ต้องเดินทางและไม่ต้องรอนาน มีคุณหมอมาตรวจให้ถึงที่ และภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงก็สามารถรับผลบันทึกสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ทันที สำหรับแพ็กเกจการตรวจสุขภาพมีรูปแบบทั้งการตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจโรคยอดฮิต อาทิ มะเร็ง เบาหวาน และการตรวจความผิดปกติเฉพาะอย่าง โดยขั้นตอนการทำงานจะเริ่มหลังจากที่ผู้ใช้บริการซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพบนเว็บไซต์ จากนั้นจะมีพยาบาลวิชาชีพและนักเทคนิคการแพทย์ รวมถึงแพทย์เฉพาะทางเดินทางมาที่บ้านหรือที่ทำงาน เพื่อทำการเก็บตัวอย่างจากเลือดปัสสาวะ หรืออื่นๆ ตามด้วยการตรวจสุขภาพซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ทั้งนี้ บริการดังกล่าวช่วยให้ประหยัดเวลา และขั้นตอนในการตรวจสุขภาพตั้งแต่เริ่มจนถึงขั้นตอนสุดท้ายได้เกินครึ่ง รวดเร็วทันใจในด้านผลการตรวจ และยังนับว่าเป็นโซลูชั่นที่น่าสนใจที่เชื่อว่าจะช่วยให้คนไทยหันมาใส่ใจการตรวจสุขภาพกันมากขึ้น

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการบริการ และผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพถือเป็นกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมที่กำลังมาแรงและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหาร อุปกรณ์เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ อุปกรณ์และบริการทางการแพทย์สำหรับกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่ ทั้งนี้ภายใต้การดำเนินงานของ NIA ได้ดำเนินโครงการนวัตกรรมด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการดูแลรักษาสุขภาพ ภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนาและใช้นวัตกรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพของประเทศในอนาคต นอกจากนี้ หากยิ่งพัฒนาและสนับสนุนสิ่งที่มีความแปลกใหม่ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคมได้อย่างหลากหลาย ก็ยิ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตควบคู่ไปกับการช่วยให้ปัญหาของคนในสังคมได้รับการแก้ไขและดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-0175555 เว็บไซต์ www.nia.or.th หรือ facebook.com/niathailand