- เติบโตสวนกระแส รายได้รวม (100% JV) เฉพาะในไตรมาส 2 ที่ 13,140 ล้านบาท โตจากปีที่แล้วกว่า 114% รวมครึ่งปีแรกมีรายได้รวมทั้งสิ้น 19,960 ล้านบาท ทุบสถิติ การเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
- พลิกโฉมรูปแบบการอยู่อาศัยในทาวน์เฮ้าส์กลางเมืองสู่บรรทัดฐานใหม่ที่เหนือกว่า ด้วย THE LONGEVITY MATRIX แนวคิดการสร้างพื้นที่ชีวิตที่ยืนยาว
- ชูแบรนด์โพสิชันนิ่งใหม่ ‘วิถีบ้านกลางเมือง’ สะท้อนภาพการอยู่อาศัยที่มาพร้อมสุนทรียศาสตร์กับบ้านกลางเมือง 5 โครงการใหม่ เริ่ม 3.99 ล้าน
- ‘พลีโน่–บ้านหลังแรกที่ดีที่สุด’ ตอบโจทย์ยังเกอร์ เจเนอเรชัน กับพลีโน่ 8 โครงการใหม่ เริ่ม 1.99 ล้าน
เอพี ไทยแลนด์ พิสูจน์ผลงานท่ามกลางวิกฤตใหญ่ ทุบทุกสถิติที่เคยทำมา ด้วยตัวเลขรายได้รวม (100% JV) เฉพาะในไตรมาส 2 ที่สูงถึง 13,140 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีรายได้รวมแล้ว 19,960 ล้านบาท สะท้อนความพร้อมขององค์กรและภาพเรียลดีมานด์ที่ยังมีอยู่ท่ามกลางซูเปอร์โนวาลูกใหญ่ รุกแผนต่อเดินหน้าพลิกโฉมชีวิตในทาวน์โฮมด้วย THE LONGEVITY MATRIX แนวคิดการสร้างพื้นที่ชีวิตที่ยืนยาว ที่เหนือกว่าการอยู่อาศัยในทาวน์เฮ้าส์ทั่วไป ด้วยการเชื่อมต่อสุนทรียะการอยู่อาศัยเข้ากับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางสำหรับคนทุกช่วงวัย พื้นที่อยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวและคุ้มค่า และการสร้างสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ กับ 2 โพสิชันนิ่งใหม่ ‘วิถีบ้านกลางเมือง บรรทัดฐานที่ดีที่สุดแห่งการใช้ชีวิต – พลีโน่ บ้านหลังแรกที่ดีที่สุด’ ผ่าน 13 โครงการใหม่ มูลค่า 15,350 ล้านบาท เริ่ม 1.99 – 8 ล้านบาท
นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เอพี ไทยแลนด์ ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก โดยมี EMPOWER LIVING เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญขององค์กร ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยังสามารถสร้างสถิติการเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโดฯ (100% JV) มากถึง 19,960 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ (Net Profit) 2 ไตรมาสแรกสูงถึง 1,830 ล้านบาท หากดูในส่วนของรายได้รวม (100% JV) เฉพาะไตรมาส 2 ที่ 13,140 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่บริษัทฯ ยังคงดำเนินการขายและโอนกรรมสิทธิ์โครงการได้เกินจากที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนได้ถึงความมั่นใจของผู้บริโภค ตลอดจนกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่ และเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะค่อยปรับตัวที่ดีขึ้น”
“วันนี้คงต้องยอมรับว่าสินค้าแนวราบได้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งปีไปแล้ว อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายของสินค้าก็อายุน้อยลง โดยในส่วนของสินค้าทาวน์โฮมจากการเฝ้าสังเกตเทรนด์การอยู่อาศัยและการตัดสินใจซื้อพบว่าลูกค้าที่ซื้อและโอนฯ ทาวน์โฮมอายุน้อยลง โดยกว่า 40% เป็นกลุ่มลูกค้าที่อายุ 26–30 ปี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมืองอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงเดินหน้าตามแผนพลิกโฉมการอยู่อาศัยในทาวน์โฮมใหม่ ภายใต้ THE LONGEVITY MATRIX แนวคิดเพื่อสร้างพื้นที่ชีวิตที่เหนือกว่าทาวน์เฮ้าส์แบบเดิมๆ ด้วยการเชื่อมต่อสุนทรียะการอยู่อาศัยเข้ากับการออกแบบสเปซใน 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ 1. การพัฒนาส่วนกลางสำหรับคนทุกวัย 2. การสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวและคุ้มค่า และ 3. การสร้างสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดจะสะท้อนผ่านทาวน์โฮมแบรนด์ บ้านกลางเมือง และพลีโน่ ในมิติที่แตกต่างกันตามโพสิชันของแบรนด์ กับ 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 15,350 ล้านบาท” นายภมร กล่าวเพิ่มเติม
“สำหรับแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง’ หนึ่งในฮีโร่แบรนด์ของเอพีกั
“และในส่วนของพรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ภายใต้แบรนด์ ‘พลีโน่’ ที่ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้า จนสามารถสร้างการเติบโตในส่
ทั้งนี้ หากดูยอดขาย 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรวมแล้วกว่า 18,175 ล้านบาท คิดเป็น 55% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขายรวม 33,500 ล้านบาท) โดย 15,540 ล้านบาทเป็นยอดขายที่เกิดขึ้