งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมเฉพาะทางด้านหม้อไอน้ำ ภาชนะรับแรงดัน ปั๊ม วาล์ว ท่อและข้อต่อ เผยโฉมโมเดลธุรกิจใหม่หลังวิกฤตโควิด ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ปรับทัพอุตสาหกรรมรวมพลังภาครัฐ-เอกชนตบเท้าผนึกกำลังโชว์นวัตกรรมใหม่และแผนระยะยาวเดินหน้าสู่ชีวิตวิถีใหม่อย่างยั่งยืน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 หรือ ASE2020 พร้อมกล่าวเปิดงาน ได้แสดงทรรศนะด้านพลังงานไว้อย่างน่าสนใจว่า “รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้ทุกภาคส่วนได้พร้อมใจผนึกกำลังร่วมจัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 งานแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อมที่ครบครันที่สุดในภูมิภาคอาเซียนในครั้งนี้ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระดับโลกและประเทศไทย ซึ่งรวมถึงภาคพลังงานด้วย ซึ่งนับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายในการปรับตัวเดินหน้าเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐรวมถึงกระทรวงพลังงานได้ดำเนินการบรรเทาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ทุกภาคส่วน ทั้งมาตรการช่วยด้านรายได้ และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งจะยังคงมีการดำเนินมาตรการลักษณะนี้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างงานสร้างรายได้ เพราะวิกฤตครั้งนี้จะยังไม่หายไปได้ในเร็ววัน แต่อาจจะมีวันสิ้นสุดใน 12-15 เดือนข้างหน้า ซึ่งกระทรวงพลังงานจึงได้ตระหนักถึงมาตรการในระยะยาวในการส่งเสริมทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนในการปรับแนวคิด และโมเดลการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG Economy ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (green economy) นำไปสู่การพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจคาดเดาได้ในทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังคงดำเนินการตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานร่วมกับแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศหรือ AEDP ซึ่งมีเป้าหมายใช้พลังงานทดแทนในประเทศไทยให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ของการใช้พลังงานทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2580 ซึ่งตามแผนจะ ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งยังเดินหน้าส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อ ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรอย่างแท้จริง และพัฒนาทุกภาคส่วนสู่ความยั่งยืน
มากไปกว่านั้นภาครัฐยังมีนโยบายสนับสนุนพลังงานโซล่าร์ฯภาคประชาชน และขับเคลื่อนพลังงานทางเลือกใหม่ ๆ อาทิ แบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และจะมีนโยบายการพัฒนานวัตกรรมพลังงานใหม่ๆ ลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นำระบบอัจฉริยะมาใช้ในระบบการจ่ายไฟฟ้า และสร้างธุรกิจใหม่ๆ เพื่อรองรับอนาคตของประเทศไทย และส่งเสริมไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านพลังงานทดแทนแห่งภูมิภาค ซึ่งงาน ASE 2020 เป็นงานที่ตอบโจทย์การเดินหน้าสู่การปรับตัวด้านพลังงานของประเทศไทยและภูมิภาคสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
ด้าน นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ในฐานะผู้จัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 (ASE 2020) เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในทุกภาคส่วน แต่การดำเนินธุรกิจและการพัฒนาสู่ความยั่งยืนต้องไม่หยุดชะงัก ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์การดำเนินงานของอินฟอร์มา ที่มุ่งผลักดันอุตสาหกรรมให้มีโอกาสพัฒนา เรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเดินหน้าสู่ความยั่งยืน นำมาสู่การจัดงานภายใต้รูปแบบ นิว นอร์มัล ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ พัฒนาการจัดงานแสดงในรูปแบบ ไฮบริด เอ็กซ์ซิบิชั่น (Hybrid Exhibition) หรือการจัดแสดงแบบครบองค์รวม ที่รองรับทั้งการจัดแสดงงานในรูปแบบปกติ (Physical exhibition) และการจัดแสดงแบบเสมือนจริง (Virtual Exhibition) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าชมงานชาวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองสามารถพบปะพูดคุยกับผู้จัดแสดงงานผ่านออนไลน์ แพลตฟอร์ม ตลอดระยะเวลาการจัดงาน
นอกจากนี้ยังมีการยกระดับความปลอดภัยขณะเยี่ยมชมงาน ตามมาตรการการจัดงานและการดำเนินการด้านสุขอนามัยเน้นความปลอดภัยตามมาตรฐานของ อินฟอร์มา ออลซีเคียว (Informa AllSecure) ตามมาตรการเฝ้าระวังและติดตามการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ความมั่นใจทุกท่านในการเรียนรู้และเข้าร่วมงานจัดแสดงเทคโนโลยีและการประชุมด้านพลังงานหมุนเวียน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ครบครันที่สุดแห่งปี
“ ทั้งนี้ งาน ASE 2020 โดยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (JGSEE) และภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปท์ ”ENERGY SOLUTIONS FOR SMART CITIES”
โดยมีการแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดด้านพลังงานอย่างครบครัน และปีนี้จัดงานร่วมกับ Renewable Energy Asia, Entech Pollutec Asia, Energy Efficiency Expo, Electric Vehicle Asia งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ระบบจัดการแบตเตอรี่ อุปกรณ์ตรวจตราและควบคุมสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า โดยจะแสดงแหล่งพลังงานที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดพร้อมกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยจากกว่า 1,000 แบรนด์ชั้นนำของโลก รวมถึงผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)และ FIMER ทั้งยังคงมี กิจกรรมสัมมนากว่า 50 หัวข้อทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทนในหัวข้อ International Conference Sustainable Energy Solutions for Smart Cities และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจ พร้อมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศร่วมให้ความรู้ รวมถึงไฮไลท์ กิจกรรม EV Drive & Ride ภายในงาน EV Asia 2020 งานแรกและงานเดียวในประเทศไทยที่เปิดให้บุคคลทั่วไปได้ทดสอบขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicles) จากค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทยมากที่สุดอาทิ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ปอร์เช่ จากัวร์ อาวดี้ อีแกทอีวี เอ็มจี ฯลฯ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 15,000 ราย เข้าร่วมกิจกรรมและชมงานครั้งนี้ผ่านการจัดงานแบบไฮบริด เอ็กซิบิชั่น
ในส่วนของงาน Boilex Asia & Pumps and Valves Asia 2020 งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติเฉพาะทางด้านหม้อไอน้ำ ภาชนะรับแรงดัน ปั๊ม วาล์ว ท่อและข้อต่อ ที่ใหญ่และครบครันที่สุดในอาเซียน มีไฮไลท์คือ การจัดสัมมนาวิชาการด้านเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยในหัวข้อเรื่อง “อนาคตอุตสาหกรรมไทย…ก้าวไกลสู่ BCG” จัดโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม” นายมนู กล่าวปิดท้าย
ร่วมชมงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 งานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านพลังงานทดแทน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ที่ครบวงจรที่สุดในอาเซียน จัดพร้อมกับงาน ร่วมกับ Boilex Asia & Pumps and Valves Asia 2020 ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา