เป้าหมายของคนทำธุรกิจ ย่อมต้องการที่จะให้แบรนด์ของตัวเองเป็นที่รู้จักและจดจำของลูกค้า ยิ่งในยุคที่การแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้น ท่ามกลางคู่แข่งที่หลากหลาย ทั้งแบรนด์ที่คุ้นหน้าคานตากันดี รวมทั้งแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าสนใจผูกขาดอยู่กับแบรนด์ของเรา เพื่อความอยู่รอดการแย่งชิงลูกค้าในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ การทำธุรกิจ หัวใจสำคัญอีกสิ่ง คือ ผู้ประกอบการต้องมีเทคนิค มีกลยุทธ์ในการเอาชนะใจลูกค้ารายใหม่ และยังคงต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าประจำ
ล่าสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ สถาบัน NEA ได้จัดกิจกรรม สัมมนา “เทคนิคทางรอด SMEs ไทย ปรับตัวอย่างไรในยุค 4.0” ในหลักสูตร “E-Commerce week by NEA” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความรู้ด้านเชิงลึกในการประกอบธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ตรงในการเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทั้งภายในและระหว่างประเทศภายใต้เศรษฐกิจยุคใหม่ จึงได้รวบรม 10 เทคนิคมัดใจลูกค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปปรับใช้ ดึงดูดลูกค้าและการปรับตัวให้เข้ากับยุคของการแข่งขันที่เพิ่มมาขึ้น ดังนี้
1. เข้าใจและรู้จักตัวตนของลูกค้าใ
2. สร้างบุคลิกให้แบรนด์ ตราบใดที่แบรนด์แข็งแรงไม่ว่
3. สร้าง Story ให้แบรนด์ เรื่องราวที่น่าสนใจจะช่วยเพิ่
4. สร้างความรู้สึกคุ้มค่า ลูกค้าจะจ่ายเงินซื้อของกับสิ่
5. รวบรวม Big Data ตั้งแต่สร้างแบรนด์ใหม่ๆ การเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าหรือ Big Data นั้นสำคัญมาก เพราะต้นทุนการรักษาลูกค้าเก่
6. ตามทันเทคโนโลยีดิจิทัล การที่คุณมีธุรกิจหรือขายอะไรสั
7. อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนานในปัจจุ
8. รับฟังเสียงของลูกค้า การรับฟังข้อแนะนำหรือการตำหนิ
9. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลู
10. จริงใจต่อลูกค้าดีที่สุด คงไม่แปลกที่ใครๆ ก็ชอบคนจริงใจ ลูกค้าก็เช่นกัน เป็นเรื่องแปลกที่จะบอกว่า “ให้ยอมรับกับลูกค้าตรงๆ หรือบอกข้อมูลที่เป็นจริงแก่ลูกค้า เมื่อมีข้อผิดพลาด” อาจคิดว่าจะทำให้ดูไม่ดีในสายตาลูกค้าหรือเปล่า แต่เชื่อเถอะการทำเช่นนี้จะทำให้ลูกค้าไว้วางใจและเข้าถึงแบรนด์คุณได้มากขึ้น ดังนั้นแบรนด์ไหนที่จริงใจ เปิดเผยข้อมูลแบบไม่กั๊กจะทำให้ได้ใจลูกค้ายังไม่พอ ยังได้ความประทับใจที่จะถูกส่งต่อไปยังคนใกล้ชิดของลูกค้าเหล่านั้นทั้งแบบปากต่อปาก หรือผ่านโซเชียลมีเดีย จนทำให้แบรนด์ของคุณถูกรู้จักเพิ่มมากขึ้น
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือสถาบัน NEA กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้เทคนิค หรือ กลยุทธ์ต่างๆ ถือว่าเป็นอาวุธชิ้นสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและ ยอดขาย ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผลกำไรและความมั่นคงทางธุรกิจก็จะตามมา ดังนั้นสิ่งที่อยากจะแนะนำผู้ประกอบการก็คือ ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญกับตัวตนและจิตวิญญาณของสินค้าและบริการ หากไม่ตื่นตัวและปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคก็จะทำให้สินค้าและบริการถูกโดนกลืนหายไปในที่สุด โดยสถาบันฯ ยังมีโครงการและกิจกรรมในการส่งเสริมเอสเอ็มอีและสตาร์อัพไทยตลอดปี 2562 อาทิ โครงการต้นกล้า ทู โกล สร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล โครงการพัฒนานักส่งออกรุ่นใหม่ (Young Exporter Form Local to Global by NEA) และโครงการบ่มเพาะเพื่อผู้ประกอบการยุคใหม่ “สานฝันสตาร์ทอัพไทยสู่สากล” ตามนโยบายเศรษฐกิจแบ่งปัน ซึ่งเป็นการช่วยให้ประชาชนทุกคนในประเทศสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างทั่วทั้งส่วนของกรุงเทพฯและภูมิภาค
สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทรศัพท์ 02 507 7999 หรือ www.nea.ditp.go.th , facebook.com/nea.ditp