โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ประกาศความสำเร็จของนักเรียนมัธยมคุณภาพในการศึกษาปี 2561 ในการสอบวัดระดับความรู้ทางวิชาการมาตรฐานสากล A-LEVEL และ IGCSE ซึ่งเป็นการวัดระดับความรู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ในการยื่นสมัครเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ โดยนักเรียนโชรส์เบอรี กรุงเทพ สามารถทำคะแนนสอบ A-LEVEL ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนที่นักเรียนในประเทศอังกฤษทำได้ ถึง 5 เท่า และทำคะแนนสอบ IGCSE ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนที่นักเรียนในประเทศอังกฤษทำได้ ถึง 3 เท่า ถือเป็นการทุบสถิติคะแนนที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยคะแนนเหล่านี้คือใบเบิกทางที่สำคัญที่ทำให้นักเรียนโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ สามารถคว้าสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในสถาบันระดับอุมศึกษาและมหาวิทยาลัยชื่อดังชั้นนำของโลกได้เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญผลการสอบ A-LEVEL ของนักเรียนโชรส์เบอรี กรุงเทพ มีแนวโน้มทำคะแนนได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์คุณภาพการเรียนการสอน และการแนะแนวทางการศึกษา ซึ่งตอกย้ำความสำเร็จ 15 ปีในประเทศไทยของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดในภูมิภาคมาโดยตลอด

นายโรเบิร์ต มิลลาร์ รองครูใหญ่ (หัวหน้าฝ่ายมัธยม) โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ริเวอร์ไซด์ แคมปัส ซึ่งร่วมงานกับโชรส์เบอรี กรุงเทพ มานานกว่า 9 ปี กล่าวว่า “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผลการสอบ A-LEVEL ของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ มีแนวโน้มคะแนนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีล่าสุด ร้อยละ 44 ของนักเรียนที่เข้าสอบ สามารถทำคะแนนได้ในระดับ A* ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอังกฤษถึง 5.5 เท่า ในขณะที่ ร้อยละ 69 ของนักเรียนที่เข้าสอบ IGCSE สามารถทำคะแนนได้ในระดับ A*/A ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอังกฤษถึง 3.4 เท่า ถือเป็นความสำเร็จของนักเรียนและครูผู้สอนทุกคน ตลอดจนเป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียน โชรส์เบอรี”

 

การสอบ A-LEVEL และ IGCSE เป็นการสอบวัดระดับความรู้ความสามารถทางวิชาการมาตรฐาน สากลสำหรับนักเรียนที่ศึกษาหลักสูตรการเรียนการสอนระบบอังกฤษ โดยนักเรียนต้องศึกษาและสอบผ่าน IGCSE ในช่วง Year 10 และ Year 11 จึงจะสามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปศึกษาและสอบ A-LEVEL ซึ่งเป็นการเรียนแบบเจาะลึกที่นักเรียนจะได้เรียนวิชาเฉพาะสำหรับวัดศักยภาพของแต่ละคนอย่างแท้จริงในช่วง Year 12 และ Year 13 เพื่อนำผลการสอบที่ได้ไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ

“ตลอดระยะเวลา 15 ปี ในประเทศไทย โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดในภูมิภาคมาโดยตลอด และได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองว่าเราได้ดูแลบ่มเพาะนักเรียนทุกคนตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโชรส์เบอรี ด้วยสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ หลักสูตรการเรียนการสอนที่ผ่านการคิดและวางแผนมาอย่างละเอียดรอบคอบให้ครอบคลุมเนื้อหาทางวิชาการอย่างเหมาะสม แต่ก็มีความสมดุลย์ระหว่างการเรียนและการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อไม่ให้นักเรียนเครียดเกินไป และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพและใช้ชีวิตอย่างรอบด้าน ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ค้นพบสิ่งที่สนใจและถนัด โดยนักเรียนทุกคนจะได้รับการสนับสนุนและคำแนะนำจากบุคลากรครูผู้สอนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีทีมบุคลากรครูผู้สอนที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์อย่างสูงในการแนะแนวการศึกษาต่อในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดนี้ช่วยให้นักเรียนสามารถต่อยอดพัฒนาจนกลายเป็นทักษะที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น เมื่อผนวกเข้ากับความตั้งใจและความมุ่งมั่นของตัวนักเรียนเอง จึงกลายเป็นความสำเร็จที่ทำให้นักเรียนโชรส์เบอรี กรุงเทพ เติบโตขึ้นเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกและของไทยได้ด้วยความภาคภูมิ และนักเรียนของเราล้วนแล้วแต่เติบโตเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่การงานในอาชีพที่ดีและมั่นคง” นายโรเบิร์ต กล่าว

นางสาวนัชชา ยงพิพัฒน์วงศ์ (ปันปัน) เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ และกำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในภาควิชาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ ที่เซนต์ปีเตอร์ คอลเลจ (Philosophy, Politics and Economics – PPE, St. Peter’s College) มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “การทำข้อสอบวัดระดับความรู้ทางวิชาการทั้ง A-LEVEL และ IGCSE ให้ได้ผลคะแนนในระดับสูงอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน ในระยะเวลาต่อเนื่องหลายปี ทั้งความขยัน ความกระตือรือร้น และความมีวินัยในการศึกษาของตัวนักเรียน และที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือ การได้รับการเรียนการสอนคุณภาพ การสนับสนุนและคำแนะนำช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจากครูผู้สอนที่ดี ในสภาพแวดล้อมการเรียนและโรงเรียนที่ดี ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการพัฒนาศักยภาพ และทำให้การเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบไม่เคร่งเครียดกดดันมากเกินไป ทำให้พวกเราก้าวไปสู่เป้าหมายที่คาดหวังไว้ได้ในที่สุด”

นางสาวพิมรา สูงสว่าง (พิมมี่) ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ และกำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในภาควิชาเศรษฐศาสตร์ที่ดิน ที่ควีนส์คอลเลจ (Land Economy, Queen’s College) มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวว่า “หนึ่งในวัฒนธรรมที่สำคัญของโชรส์เบอรี คือ นักเรียนไม่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค์และความท้าทายเพียงลำพัง แต่สามารถขอคำปรึกษาจากครูได้ในทุกๆ เรื่อง ทั้งในเชิงวิชาการ กิจกรรมนอกหลักสูตร ความถนัดและเรื่องอื่นๆ ที่สนใจ จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนมีความใกล้ชิดเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”

นางสาวยัสมิน นิวยิน เด็กนักเรียนสัญชาติเวียดนามซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ และกำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในภาควิชามนุษยศาสตร์ แมนส์ฟีลด์ คอลเลจ (Human Science, Mansfield College) มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า “การเรียนการสอนที่โชรส์เบอรี ช่วยให้ดิฉันและเพื่อนๆ ค้นหาว่าชอบอะไร สนใจอะไร และมีความถนัดในเรื่องใด สำหรับดิฉันที่สนใจหลายด้าน การค้นพบตัวตนจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อการเลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัยและการใช้ชีวิตในอนาคต”

นายคาซูกิ โทโจ เด็กนักเรียน Year 12 สัญชาติญี่ปุ่น หนึ่งในนักเรียนโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ที่ทำคะแนนสอบ IGCSE ได้ในระดับสูง กล่าวว่า “ผมชอบเครื่องบินมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก เมื่อได้มาเป็นนักเรียนของโชรส์เบอรี ก็ได้รับการสนับสนุนให้ต่อยอดความชอบนั้นจนพัฒนาเป็นความสนใจ และกลายเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน ผมตั้งใจว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยม
จะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมการบินและอวกาศครับ”

ทั้งนี้ นักเรียนโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซึ่งสำเร็จการศึกษาปี 2561 ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด, มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน, ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน และมหาวิทยาลัยเดอรัม ในประเทศอังกฤษ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน, มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์, มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ และมหาวิทยาลัยเพอร์ดูในสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยนาโกย่า ในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ