บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ประกาศความเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งไทยรายแรกที่หยุดจำหน่ายภาชนะโฟมใส่อาหาร ใน 12 สาขาทั่วประเทศ รับวันคุ้มครองโลก ตอกย้ำนโยบาย “แม็คโครรักษ์สิ่งแวดล้อม” ผ่านโครงการ “Say Hi to Bio Say No to Foam : แม็คโครรักษ์โลก ชวนคุณใช้ผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม” พร้อมจัดโปรโมชั่นแรงทั้งปี ลดราคาพิเศษ 10-40 % และเฉพาะ 19 – 21 เมษายนนี้ สำหรับ 12 สาขานำร่อง ลดราคาพิเศษสูงถึง 20 – 50% สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการเลิกใช้กล่องโฟมบรรจุอาหารภายในปี 2565 ของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 1 ในเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่สำคัญของแม็คโครก็คือ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา แม็คโครเป็นศูนย์ค้าส่งรายเดียวในประเทศไทยที่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องการไม่ให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้า เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปริมาณขยะที่เกิดจากพลาสติกที่มีจำนวนมากขึ้น สร้างผลกระทบระดับโลก และด้วยพันธกิจ “คู่คิดธุรกิจคุณ” ทำให้แม็คโครมุ่งศึกษาและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ทดแทนพลาสติกและโฟม เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ๆ ตลอดจนการประกาศเจตนารมณ์เป็นครั้งแรก ในการหยุดจำหน่ายภาชนะโฟมบรรจุอาหารภายใต้โครงการ “Say Hi to Bio, Say No to Foam : แม็คโครรักษ์โลก ชวนคุณใช้ผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม” ใน 12 สาขาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอทางเลือกในการใช้บรรจุภัณฑ์ให้ร้านอาหารรายย่อย พร้อมส่งเสริมการใช้ด้วยโปรโมชั่นพิเศษตลอดทั้งปี
“ภายใต้โครงการ Say Hi to Bio, Say No to Foam แม็คโครจะหยุดจำหน่ายภาชนะโฟมบรรจุอาหารใน12 สาขานำร่อง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้หันมาเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Products) นอกจากนี้ยังร่วมกับพันธมิตร ผลิตและพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารจากวัสดุธรรมชาติ ทดแทนโฟมและพลาสติก อาทิ ผลิตภัณฑ์จากชานอ้อย เส้นใยพืช กระดาษ และเส้นใยยูคาลิปตัส จำหน่ายภายใต้ตราสินค้า aro พร้อมการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ 10-40 % อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อสร้างแรงจูงใจ และพิเศษ สำหรับ 12 สาขานำร่อง ลดราคาสูงถึง 20 – 50% ในวันที่ 19 – 21 เมษายนนี้เท่านั้น”
สำหรับ 12 สาขาที่หยุดจำหน่ายภาชนะโฟมบรรจุอาหาร ประกอบด้วยแม็คโครสาขาที่อยู่ใกล้บริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ได้แก่ สาขาภูเก็ต, สาขากระบี่, สาขาถลาง, สาขาสมุย, สาขาราไวย์, สาขาละมัย, สาขาพะงัน, สาขาป่าตอง, สาขาเกาะช้าง, สาขาอ่าวนาง, สาขากะรน และสาขาบ้านเพ
ขณะเดียวกัน แม็คโครได้ลดพื้นที่จำหน่ายพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งให้น้อยลง และเพิ่มปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ตามความต้องการของตลาด และแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ รัฐบาลกำหนดให้การจัดการขยะเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้จัดทำโรดแมปการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.2561-2573 ยึดกรอบแนวคิดและหลักการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่มีเป้าหมายในการเลิกใช้พลาสติกชนิดต่างๆ ภายในปี 2565 รวมถึงกล่องโฟมบรรจุอาหาร ประกอบกับกรอบแนวทางการดำเนินงานของทุกภาคส่วนผ่าน 4 มาตรการ คือ 1.เลิก 2.ลด 3.ใช้นวัตกรรมใหม่ 4.คัดแยกและกำจัดอย่างถูกวิธี ที่ออกมาทำให้การรณรงค์ลดการใช้พลาสติกและโฟมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเข้มข้นขึ้น
ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีขยะพลาสติกและโฟมเฉลี่ยปีละประมาณ 2.7 ล้านตัน หรือเฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน แบ่งเป็น ขยะพลาสติก ประมาณ 2 ล้านตัน อาทิ ถุงร้อน ถุงเย็นบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้ว กล่อง ขวด เป็นต้น ขยะโฟมประมาณ 700,000 ตัน โดยไทยจัดอยู่ในอันดับ 6 ของประเทศที่มีขยะพลาสติกมากที่สุดในโลก
“เนื่องในวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day 22 เมษายนที่ใกล้จะถึงนี้ แม็คโครในฐานะผู้ค้าส่งครบวงจร อยากเชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้ค้ารายย่อยให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้สินค้ากลุ่มนี้มีราคาถูกลงตามกลไกตลาด ประชาชนคนไทยก็จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารที่ปลอดภัย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และราคาไม่แพง” นางศิริพร กล่าวทิ้งท้าย