กำเนิดโครงการอสังหาฯ ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย – ‘One Bangkok’ พลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ และก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทาง ที่เป็นแลนด์มาร์คระดับโลก
ทีซีซี กรุ๊ป เนรมิตเมืองแห่งความครบครันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกแห่งใหม่ ใช้ชื่อ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) มุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องคนเป็นศูนย์กลาง (People-centric) และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Green-sustainability) ยกระดับมาตรฐานการพัฒนาเมืองในอนาคตของกรุงเทพฯ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) จัดสรรพื้นที่ 50 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 104 ไร่ ให้เป็นพื้นสีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง เพิ่มพื้นสีเขียวและพื้นที่เปิดให้กับใจกลางกรุงเทพฯ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) สะท้อนความหลากหลายที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ของกรุงเทพฯ เปิดโครงการปี พ.ศ. 2564
กรุงเทพฯ (3 เมษายน 2560) – วันนี้ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ ลิมิเต็ด (FCL) ได้ผนึกกำลังร่วมกันพลิกโฉมพื้นที่ขนาด 104 ไร่ ใจกลางของกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเมืองที่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนจะต้องมาเยี่ยมเยือนให้ได้แห่งหนึ่งของโลก โดยโครงการดังกล่าวนี้จะถูกเนรมิตให้เป็นเมืองแห่งความครบครันเพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทยที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องคนเป็นศูนย์กลาง เรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตเมืองอย่างชาญฉลาด
โครงการแห่งนี้ใช้ชื่อว่า ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 120,000 ล้านบาท จะเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย และ จะกลายเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกแห่งใหม่ เมื่อส่วนแรกของโครงการเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2564
นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ทีซีซี และ FCL กล่าวว่า “จุดมุ่งหมายในการวางแผนและออกแบบโครงการ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) คือการยกระดับภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองที่เป็นประตูเชื่อมโลกกับเอเชีย”
‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) คือเมืองแห่งความครบครันที่เป็นเมืองในเมืองกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานที่ล้ำยุค โรงแรมหรูที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ร้านค้าและพื้นที่ทำกิจกรรม ที่หลากหลายครบครันซึ่งจัดสรรไว้ในบริเวณต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างแต่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ที่พักอาศัยระดับอัลตราลักชัวรี่ พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจมากมายหลายรูปแบบเพื่อการใช้ชีวิตของผู้คน พื้นที่ศิลปะและวัฒนธรรม รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งขนาดรวมกัน 50 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 104 ไร่ โดยโครงการตั้งอยู่บนที่ดินเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในทำเลทองบริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ติดกับสวนลุมพินี เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบขนส่งมวลชน
นายเจริญ กล่าวว่า “ทางกลุ่มรู้สึกเป็นเกียรติที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระหากษัตริย์ได้ให้ความไว้วางใจในการพลิกโฉมพื้นที่ผืนสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ผืนนี้ให้กลายเป็นเมืองที่ครบครัน ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบ ที่ผมมีความมุ่งมั่นและผมขอยืนยันที่จะสร้างสรรค์โครงการนี้ให้สำเร็จและโดดเด่นเป็นสง่าน่าภาคภูมิใจ พร้อมที่จะพลิกโฉมประเทศไทยให้ชาวโลกชื่นชม”
นายเจริญกล่าวว่า “สิ่งที่คาดหวังในการเนรมิตโครงการ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) คือการเสริมสร้างความเชื่อมั่นที่ทั่วโลกมีต่อประเทศไทยในฐานะเมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเป็นเมืองที่เป็นประตู สู่โลกและเป็นเมืองแห่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญของเอเชีย รวมทั้งคาดหวังที่จะนำความรุ่งเรืองที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่า เจ้าของ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ”
“เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่คาดหวังในการทำโครงการ ผมได้มอบความไว้วางใจให้กับ 2 บริษัทในกลุ่มทีซีซี คือ ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) และ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งทั้งสองบริษัทจะเติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่างสมบูรณ์แบบในการร่วมกันเนรมิตโครงการคุณภาพที่ยิ่งใหญ่ที่จะกลายเป็นที่ชื่นชมไปทั่วโลก” นายเจริญ กล่าว
‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) เป็นโครงการที่พัฒนาโดยกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 80.1% กับและบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) ถือหุ้น 19.9%
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คือ แบรนด์โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติของ FCL ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และมีความมั่นคงอย่างเต็มเปี่ยม มีสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 17,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 605,000 ล้านบาท มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับด้วยผลงานความสำเร็จในการการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับเมืองที่โครงการนั้นๆ ตั้งอยู่
นายเจริญ กล่าวว่า “การจับมือเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ครั้งนี้ทำให้เราสามารถผสานจุดแข็งทางการเงินและความรู้ความเข้าใจตลาดภายในประเทศของทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) เข้ากับความเชี่ยวชาญที่เป็นเลิศในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมีเกียรติประวัติที่ยอดเยี่ยมยืนยันด้วยผลงานโครงการที่ได้รับรางวัลมากมาย”
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FCL กล่าวว่า “การผนึกกำลังในครั้งนี้จะเป็นหลักประกันว่าเราจะมีความสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย ขีดความสามารถที่ไม่มีข้อจำกัด และเงินลงทุนที่พร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเนรมิตโครงการที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นที่สุดโครงการหนึ่งของเรา”
นายปณต กล่าวว่า “ไม่มีโครงการไหนในประเทศไทย ที่เป็นโครงการเดียวที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายเท่ากับโครงการนี้ โดย ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) จะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์ที่มีสีสันและชีวิตชีวาที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เป็นสุดยอดปรารถนาที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่ผู้คนอยากมาอยู่อาศัย มาทำธุรกิจ และมาเยี่ยมเยือน ตลอดจนดึงดูดบริษัททั้งในประเทศและบริษัทข้ามชาติชั้นนำจากต่างประเทศให้เข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเออีซีในโครงการ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) ในฐานะเป็นที่ตั้งบริษัทที่สมศักดิ์ศรีและน่าภาคภูมิใจในกรุงเทพฯ ที่ซึ่งพนักงานของบริษัทนั้นๆ และแขกที่มาเยี่ยมเยือนจะได้รับประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกและประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรและหาไม่ได้จากที่ไหน”
นายปณต กล่าวว่า “‘One Bangkok‘ (วัน แบงค็อก) แตกต่างอย่างโดดเด่น เพราะเป็นเมืองแห่งความ ครบครันเพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งพัฒนาและออกแบบโดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง (people-centric) แห่งแรกของกรุงเทพฯ มุ่งเน้นให้ผู้คนสามารถอยู่อาศัย ทำงาน และเที่ยวพักผ่อนสนุกสนานได้อย่างกลมกลืน ไร้รอยต่อภายในที่แห่งเดียว พร้อมกับมอบความรู้สึกสบายและความสะดวกในทุกมิติของ การใช้ชีวิตประจำวันที่ตอบโจทย์ตามหลักสรีรศาสตร์ของมนุษย์ และเอื้อต่อการเชื่อมโยงผู้คนเข้าถึงกัน”
“จากแนวทางการออกแบบและวางผังการพัฒนาเมืองแห่งนี้ ผสานกับการนำเสนอส่วนผสมต่างๆ ภายในโครงการอย่างลงตัว ทำให้ผู้คนสามารถมาค้นพบคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันได้ที่นี่สนุกสนานกับการใช้ชีวิตกลางแจ้ง และเพลิดเพลินกับกิจกรรมคุณภาพที่หลากหลายมากมายให้เลือกได้ตามที่ต้องการ โดยทั้งหมดนี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด ร่มรื่น และปลอดภัย นอกจากนั้น ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) ยังได้จัดสรรพื้นที่ขนาด 50 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 104 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง” นายปณต กล่าว
นายปณต กล่าวว่า “เราออกแบบ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) โดยคำนึงถึงสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในการวางผังเมืองเป็นอันดับแรก มีปรัชญาในการพัฒนาโครงการคือมุ่งเน้นเรื่องความหลากหลายของการใช้ประโยชน์และสถาปัตยกรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการตามหลักการของความยั่งยืน คำนึงถึงบริบทในเรื่องสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น ผสานมรดกทางประวัติศาสตร์และมิติต่างๆ ของความเป็นประเทศไทยที่พบได้เฉพาะในกรุงเทพฯ เพื่อให้พื้นที่ทั้งหมดของโครงการกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่สำหรับทุกคน”
นายปณต กล่าวว่า “ทีมพัฒนาโครงการ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) นำโดยนางสาวซู หลิน ซูน นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพผู้ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์สูง ร่วมกับทีมงานมืออาชีพระดับโลก อีกมากกว่า 100 คน จากบริษัทชั้นนำของไทยและระดับสากล ผนึกกำลังร่วมกันพัฒนาโครงการนี้”
นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) จำกัด กล่าวว่า “เรามองว่า การสร้างโครงการที่เป็นเสมือนเมืองระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) จะต้องสะท้อนความเป็นไทย และสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องมีอยู่ในแผนแม่บทของโครงการ คือมาตรฐานคุณภาพที่เหนือกว่าที่เคยมีมา แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดตามแบบสากล และความหลากหลายในเรื่องของรูปแบบการใช้ประโยชน์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแผนแม่บทของโครงการทั้งหมดดูแลโดย Skidmore, Owings & Merrill LLP หรือ SOM* และผนึกกำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของประเทศไทย ได้แก่ Plan Associates และ A49 ซึ่งเป็นการผสมผสานประสบการณ์จากทั้งในและต่างประเทศ จากบริษัทวางผังเมืองและบริษัทสถาปัตยกรรมที่ทรงอิทธิพลสูงที่สุดในวงการ โดยเราจะเนรมิตสังคมที่เต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา สะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในศตวรรษที่ 21”
นางสาวซู หลิน ซูน กล่าวว่า “เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดของโครงการ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) เสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2568 จะมีพื้นอาคารรวม (Gross Floor Area) ทั้งหมด 1.83 ล้านตารางเมตร ซึ่งประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอที่สร้างตามมาตรฐาน LEED** และ WELL*** โรงแรมหรูที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ 5 โรงแรม ที่พักอาศัยระดับอัลตราลักชัวรี่ 3 อาคาร พร้อมด้วยร้านค้าปลีกและพื้นที่ทำกิจกรรมที่หลากหลายครบครันซึ่งจัดสรรไว้ในบริเวณต่างๆ อย่างแตกต่างแต่ลงตัว โดยแต่ละองค์ประกอบ
ของโครงการและแต่ละอาคารจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ทำให้โครงการมีความหลากหลายในเชิงของสถาปัตยกรรมอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่ทิ้งความรู้สึกว่าเป็นสังคมเดียวกันและไม่ทิ้งความเชื่อมโยงกลมกลืนของพื้นที่ทั้งโครงการ โดยคาดว่าจะมีผู้คนมากกว่า 60,000 คนเข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่ในพื้นที่โครงการ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก)”
นางสาวซู หลิน ซูน กล่าวว่า “สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ในการวางผังเมืองแห่งนี้ คือความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าออก ความเชื่อมโยง และความยั่งยืน เราจึงได้ออกแบบให้เมืองแห่งนี้เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบขนส่งมวลชนและสามารถเชื่อมต่อระบบทางด่วนได้โดยง่าย นอกจากนั้นภายในพื้นที่โครงการได้ออกแบบวางผังให้รองรับคนเดินเท้าได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกและมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนที่มาทำงาน พักอาศัยและเที่ยวพักผ่อนทำกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่โครงการ”
นางสาวซู หลิน ซูน กล่าวว่า “‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) เป็นเมืองที่ครบครันแห่งแรกในประเทศไทย ที่สร้างขึ้นโดยยึดหลักในเรื่องของความยั่งยืนเป็นตัวตั้ง โดยเป็นไปตามมาตรฐานการพัฒนาชุมชนแวดล้อมระดับลีดส์แพลตตินั่ม (LEED for Neighbourhood Development Platinum) และเราได้จัดสรรพื้นที่ภายนอกอาคารขนาดใหญ่ 50 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 104 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งรวมถึงทางเดินขนาดกว้างมากกว่า 40 เมตรที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ซึ่งถูกออกแบบภูมิทัศน์อย่างสวยงาม เลาะรอบโครงการทางฝั่งถนนวิทยุและถนนพระราม 4 โดยให้ความรู้สึกเชื่อมโยงความร่มรื่นเสมือนเป็นส่วนขยายของสวนลุมพินีซึ่งเป็นสวนสาธารณะอันเป็นที่รักของคนกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังได้จัดสรรพื้นที่ขนาด 10,000 ตารางเมตร ใจกลาง ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) ให้เป็นพื้นที่กิจกรรมที่ ทุกคนสามารถมาสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการทำกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมได้ ตลอดจนสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดงานนานาชาติ หรือเทศกาลของไทยได้อย่างเหมาะสมลงตัวด้วย”
“การวางแผนโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะร่วมของทั้งโครงการ และคุณลักษณะพิเศษของโครงการ อาทิ ระบบปรับอากาศภายในโครงการเมืองแห่งนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยส่วนกลาง และระบบจัดการพลังงาน ถูกออกแบบตามมาตรฐานสากลเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว การเติบโตในอนาคตรวมทั้งประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของเมืองแห่งนี้ได้ถูกออกแบบและวางแผนเป็นอย่างดี เอื้อต่อการบุกเบิกให้เกิดเป็นเมืองอัจฉริยะและตอบโจทย์การทำธุรกิจ ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ของผู้คนที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ต่างๆ ภายในโครงการ” นางสาวซู หลิน ซูน กล่าว