โอกิลวี่ ประเทศไทย ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมกันจัดโครงการนักศึกษาฝึกงาน เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ทักษะในการสร้างสรรค์งานโฆษณาจากมืออาชีพระดับแถวหน้าของวงการ ได้ลงมือคิดจริง ทำงานจริง เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เป็นบุคลากรคุณภาพที่พร้อมก้าวเข้าสู่โลกการทำงานจริงและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมโฆษณา การตลาด และงานสร้างสรรค์ของไทยให้ก้าวสู่สากล
นพดล ศรีเกียรติขจร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบัน เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมีผลอย่างมากต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค วิธีการทำธุรกิจและการทำงาน ครีเอทีฟยุคใหม่จะเน้นแต่เฉพาะความคิดสร้างสรรค์นั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องรู้จักนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ รู้จักวิเคราะห์ data เพื่อค้นหาข้อมูลใหม่ที่จะทำให้สร้างสรรค์งานครีเอทีฟได้ทรงพลังมากขึ้น โอกิลวี่ให้ความสำคัญกับ 3 องค์ประกอบหลักนี้ คือ Technology, Data และ Creativity มาก และเชื่อว่าการเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาเรียนรู้จากทีมครีเอทีฟของเราในการสร้างสรรค์งานโฆษณาโดยอาศัย Technology และ Data มาผนวกเข้ากับ Creativity ในบรรยากาศและกระบวนการทำงานของมืออาชีพ จะเป็นการช่วยดึงศักยภาพและเปิดมุมมองเกี่ยวกับโลกของการทำงานจริงของนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ และเตรียมคนรุ่นใหม่ให้พร้อมที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโฆษณาและการตลาดไทย”
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้มหาวิทยาลัยกรุงเทพจะคัดนักศึกษาที่มีศักยภาพและคุณลักษณะที่สอดคล้องกับตลาดแรงงานเข้าฝึกงานจำนวนไม่เกิน 15 คน ต่อภาคการศึกษา เริ่มจากกลุ่มแรกที่จะร่วมโครงการนี้ระหว่าง 13 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2562 โดยนักศึกษาที่ผลงานดีเด่นอาจถูกคัดเลือกในการต่อยอดด้านการพัฒนาการสร้างสรรค์งานโฆษณาระดับสูงหรือเข้าเรียนในวิชา Creative Advertising II ที่บริษัทโอกิลวี่
นอกจากความรู้ในด้านการสร้างสรรค์งานโฆษณาโดยเฉพาะงานครีเอทีฟแล้ว นักศึกษาจะได้ซึมซับคุณลักษณะสำคัญของการเป็นนักการตลาดที่ดีตามแบบโอกิลวี่ ได้แก่ Divine Discontent หรือ การไม่พอใจอะไรง่ายๆ และพร้อมจะท้าทายความสามารถของตนเองทุกวัน Pervasive Creativity หรือความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขอบเขต เพื่อส่งเสริมคนให้พัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ Eternal Craft หรือการพัฒนาฝีมืออย่างไม่หยุดยั้งและส่งเสริมให้คนอื่นพัฒนาฝีมือด้วย Adaptive Connection การสร้างความร่วมมือระหว่างคนที่มีภูมิหลังและทักษะที่แตกต่างกันเพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง และ Relentless Curiosity หรือความใฝ่รู้ไม่จบสิ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลลึกและแท้จริงเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างแบรนด์ที่ทรงคุณค่า หรือ Brand that Matters
“ความสร้างสรรค์เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจ เพราะความสร้างสรรค์จะทำให้เราเล่าเรื่องราวหรือสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์ได้อย่างโดนใจ นอกจากนี้ โอกิลวี่จะต่อยอดความรู้ให้แก่นักศึกษาทั้งในด้าน Brand Strategy หรือกลยุทธ์การพัฒนาแบรนด์, Digital Transformation การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี, Customer Engagement and Commerce การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า, การโฆษณา และการประชาสัมพันธ์ และการฝึกงานกับมืออาชีพอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมจะก้าวขึ้นเป็นนักการตลาดชั้นนำของวงการต่อไป” นายนพดลกล่าว